"ผมไม่แคร์" แลนโด้ นอร์ริส กับการขึ้นนำแชมป์ F1 ครั้งแรก

แลนโด้ นอร์ริส นำแชมป์ครั้งแรก แต่ไม่ได้กดดันตัวเอง

ในสุดสัปดาห์การแข่งขัน Chinese Grand Prix 2025 แลนโด้ นอร์ริส ก้าวขึ้นเป็นผู้นำคะแนนสะสมในตารางแชมป์เปี้ยนชิปประเภทนักขับเป็นครั้งแรก แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้สึกกดดันและไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันมากนัก

“ผมแค่มีสุดสัปดาห์ที่ดีหนึ่งครั้งเท่านั้น (หัวเราะ) ผมว่าแฟน ๆ ควรใจเย็นกันสักนิด ผมยังคงโฟกัสและพยายามทำให้ดีในสุดสัปดาห์นี้เหมือนเดิม และผมคงไม่คิดถึงแชมป์เปี้ยนชิปจริงจังจนกว่าจะถึงกลางฤดูกาลเป็นอย่างน้อย” เขากล่าวเสริม

การขึ้นนำแชมป์ของแลนโด้ในฤดูกาล 2025 อาจเป็นสัญญาณว่าเขาพร้อมท้าชิงตำแหน่งแชมป์โลกจริง ๆ หรือไม่ แม้ว่าตัวเขาจะไม่ได้สนใจมากนัก แต่หากแม็คลาเรนยังรักษาฟอร์มดีแบบนี้ได้จนถึงกลางฤดูกาล นี่อาจเป็นโอกาสครั้งสำคัญของเขาในการสร้างประวัติศาสตร์

การลุ้นแชมป์ F1 ในปี 2024: แม็คลาเรน, เรดบูล และเฟอร์รารี จุดเปลี่ยนสำคัญ

ในฤดูกาล 2024 แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 กับ Red Bull แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนปีก่อน ๆ เนื่องจากแม็คลาเรนและเฟอร์รารีพัฒนาขึ้นอย่างมากในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล

เวอร์สแท็พเพ่นเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างแข็งแกร่ง แต่หลังจากช่วงกลางปี รถของเรดบูลเริ่มมีปัญหาด้านฟอร์มการขับ
แลนโด้ นอร์ริส และแม็คลาเรนกลายเป็นทีมที่ทำผลงานได้คงเส้นคงวาที่สุด ขณะที่เฟอร์รารีก็กดดันคู่แข่งอย่างหนัก
นอร์ริสมีช่วงเวลาสำคัญที่ทำให้เขากลายเป็นคู่แข่งชิงแชมป์กับเวอร์สแท็พเพ่น เช่น การคว้าชัยชนะในบางสนาม และการทำผลงานดีในรอบ Sprint

ผลงานที่แข็งแกร่งตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล 2025

แม็คลาเรนเริ่มต้นฤดูกาล 2025 ได้อย่างน่าประทับใจ พร้อมกับคว้าคะแนนไปตั้งแต่สนามแรก เป็นสัญญาณว่าแม็คลาเรนมีความพร้อมในการกลับมาท้าชิงตำแหน่งแชมป์ตั้งแต่ต้นปี นอกจากนี้ ในช่วงการทดสอบพรีซีซั่นที่บาห์เรน แลนโด้ นอร์ริสก็ยังทำเวลาได้เร็วที่สุดในวันแรกของการทดสอบ แสดงให้เห็นว่ารถของแม็คลาเรนมีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมและสามารถท้าชิงแชมป์กับทีมใหญ่อย่างเรดบูลและเมอร์เซเดสได้

ในศึกออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการแข่งขันเปิดฤดูกาล นอร์ริสและพิแอสทรีมีการต่อสู้กันอย่างเข้มข้นเพื่อชัยชนะ โดยนอร์ริสให้สัมภาษณ์ว่าเขาและเทีมเมตมี “กฎที่ไม่สามารถละเมิดได้” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทางทีมได้กำหนดขอบเขตในการแข่งกันเองของนักขับทั้งสองคนเอาไว้อย่างชัดเจน เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกันและทำให้ทีมเสียหาย

นอกจากนั้น พิแอสทรีก็ยังเพิ่งประกาศการต่อสัญญาระยะยาวกับแม็คลาเรน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเขาเป็นอีกหนึ่งนักแข่งอนาคตไกลของทีม และอาจเป็นผู้ท้าชิงแชมป์ประเภทนักขับในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าอีกด้วย

นอร์ริสกับโอกาสคว้าแชมป์โลก

หากจะพูดว่าปี 2025 นี้อาจเป็นปีทองของแลนโด้ นอร์ริส ก็คงไม่ผิดนัก หลังจากโลดแล่นใน F1 มาหลายฤดูกาล ปีนี้เขาถูกยกให้เป็นหนึ่งในตัวเต็งที่มีลุ้นคว้าแชมป์โลก! โดยมีนักวิเคราะห์หลายคน รวมถึงอดีตแชมป์โลกอย่างนิโค รอสเบิร์ก ถึงกับเอ่ยปากว่านอร์ริสมีศักยภาพที่จะขึ้นไปท้าชิงบัลลังก์กับแม็กซ์ เวอร์สแตพเพน ได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าจะคว้าแชมป์จริง ๆ นอร์ริสต้องมีการรับมือกับความกดดันให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตายในสนามแข่ง

ไม่มีข้อแก้ตัว! นอร์ริสต้องทุ่มสุดตัวเพื่อแชมป์

นอร์ริสเองก็รู้ดีว่าปีนี้คือโอกาสสำคัญที่สุดในชีวิตการเป็นนักแข่งของเขา โดยเขาให้สัมภาษณ์ว่า “ผมไม่มีข้อแก้ตัวอีกต่อไป” เพราะตอนนี้เขามีทั้งทีมที่แข็งแกร่ง รถที่ดี และอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการก้าวขึ้นเป็นแชมป์โลกแล้ว ถ้าเขาอยากอยู่หัวแถวในตารางแชมป์เปี้ยนชิปจนจบซีซั่น เขาจะต้องไม่ปล่อยให้แชมป์โลกคนล่าสุดและความคาดหวังมากมายมากดดันเหมือนที่เคยทำมา เพราะครั้งนี้จะไม่ใช่แค่ต้องขับรถให้เร็วแล้ว แต่ต้องมีความนิ่งและการตัดสินใจที่เฉียบขาดในทุกจังหวะมาพร้อม ๆ กัน

ข้อมูลอ้างอิง

Sky Sports F1 – Max Verstappen wins 2024 F1 world title

Red Bull – Max Verstappen’s toughest title fight

ภาพจาก https://www.instagram.com/lando

เรียบเรียงโดย: Fernula GP